วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2558

บทที่ 3 แรงและกฏการเคลื่อนที่


แรง (Force)
ตามความหมายที่ใช้กันทั่วไป แรงคือ สิ่งที่กระทำต่อวัตถุในรูปของการพยายามดึงหรือดันที่จะทำให้วัตถุนั้นเคลื่อนที่ และเมื่อมีแรงมากระทำต่อวัตถุ วัตถุจะเคลื่อนที่หรือไม่ก็ได้ ทั้งนี้อาจเพราะมีแรงอื่นกระทำต่อวัตถุด้วย อ่านเพิ่ม

วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2558

บทที่ 2.5 คำนวณหาปริมาตรต่างๆ (aคงตัว)


Xเมื่อวัตถุเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงด้วยความเร่งคงตัวโดยเริ่มต้นวัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว u ที่เวลาเริ่มต้น t =  0 หลังจากเวลาผ่านไป t  วัตถุจะมีความเร็วเป็น v ถ้าเขียนกราฟความเร็วกับเวลาของการเคลื่อนที่ในกรณีนี้เขียนได้ดังรูป (หมายเหตุ ในที่นี้เราพิจารณาวัตถุที่เคลื่อนที่ในแนวเส้นตรง ดังนั้น ขนาดของระยะทาง=ขนาดของการกระจัด=s) อ่านเพิ่ม

บทที่ 2.4 กราฟความเร็วเวลากับระยะทาง


ความสัมพันธ์ระหว่างกราฟความเร็วเวลากับระยะทางสำหรับการเคลื่อนที่ในแนวตรง  วัตถุเคลื่อนที่ในแนวตรง ทิศทางการเคลื่อนที่จะมีเพียงสองทิศทาง คือ ทิศทางเดียวกับการเคลื่อนที่ และทิศทางสวนทางกับการเคลื่อนที่ ในการเคลื่อนที่ที่ไม่กลับทิศทาง อ่านเพิ่ม

บทที่ 2.3 ความเร่ง


ความเร่ง คือ ความเร็วที่เปลี่ยนไปในหนึ่งหน่วยเวลาเป็นปริมาณเวกเตอร์หรืออัตราการเปลี่ยนความเร็วเมื่อวัตถุมีความเร่งในช่วงเวลาหนึ่ง ความเร็วของมันจะเปลี่ยนแปลงไป ความเร่งอาจมีค่าเป็นบวกหรือลบก็ได้ ซึ่งเรามักว่าเรียก ความเร่ง (+a) กับ ความหน่วง (-a) ตามลำดับ ความเร่งมีนิยามว่า "อัตราการเปลี่ยนแปลงความเร็วของวัตถุในช่วงเวลาหนึ่ง" อ่านเพิ่ม

บทที่ 2.2 การวัดอัตราเร็วของการเคลื่อนที่ในแนวตรง


วัตถุบางชนิดขณะเคลื่อนที่จะไม่มีเครื่องวัดอัตราเร็วเหมือนกับรถยนต์ เช่น คนวิ่ง ผลไม้ตกจากต้นไม้ ถ้าต้องการทราบอัตราเร็วของสิ่งเหล่านัน ก็สามารถทำได้โดยใช้นาฬิกาจับเวลา และวัดระยะทางที่เคลื่อนที่ได้ อ่านเพิ่ม

บทที่ 2.1 ปริมาณต่างๆของการเคลื่อนที่


ตำแหน่ง (position) คือ จุดที่บอกให้ทราบว่าวัตถุหรือสิ่งของ อยู่ทีใดเมื่อเทียบกับจุดอ้างอิง
ระยะทาง
 (distance) คือ ความยาวที่วัดตามเส้นทางการเคลื่อนที่ของวัตถุจากตำแหน่งเริ่มต้น ถึงตำแหน่งสุดท้าย จัดเป็นปริมาณสเกลลาร์  มีหน่วยเป็นเมตร อ่านเพิ่ม

บทที่ 2 การเคลื่อนที่แนวตรง


1. ลักษณะการเคลื่อนที่
ในธรรมชาติมีการเคลื่อนที่หลายลักษณะ เช่น รถยนต์แล่นไปตามถนน การหมุนของวงล้อจักรยานการกระเพื่อมขึ้นลงของผิวน้ำ การเคลื่อนที่ทั้งหลายเหล่านี้ล้วนเกี่ยวข้องกับตำแหน่งและการเปลี่ยนตำแหน่งในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ ถ้าเป็นกรณีรถยนต์แล่นไปตามถนนลักษณะที่จะเกี่ยวกับตำแหน่งและการเปลี่ยนตำแหน่งของรถยนต์ เป็นต้น อ่านเพิ่ม

บทที่ 1.8 การวิเคราะห์ผลการทดลอง


ก่อนเริ่มการวิเคราะห์ข้อมูล อย่างผู้วิเคราะห์ข้อมูลควรจะต้องรู้จักลักษณะการกระจายแบบเกาส์เซียน โดยเฉพาะพารามิเตอร์ที่ใช้ในการอธิบายโค้งเกาส์เซียน เช่น ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความสูง เป็นต้น ซึ่งความรู้นี้จำทำให้ทุกคนเข้าใจการวิเคราะห์ค่าจากการฟิตพีคมากยิ่งขึ้น อ่านเพิ่ม

บทที่ 1.7 การบันทึกผลการคำนวณ


สิ่งที่สำคัญประการหนึ่งในการทดลองคือการบันทึกข้อมูลตามความเป็นจริง การบันทึกข้อมูลนั้นมีได้2ลักษณะ คือ การบันทึกข้อมูลเชิงคุณภาพ(บอกถึงลักษณะ และคุณสมบัติต่างๆที่สังเกตได้จาการทดลอง) และการบันทึกข้อมูลเชิงปริมาณ(บอกถึง จำนวนมากน้อยในลักษณะเป็นตัวเลข) อ่านเพิ่ม

บทที่ 1.6 เลขนัยสำคัญ


เลขนัยสำคัญ (Significant) เป็นตัวเลขที่ได้จากเครื่องมือวัดแบบสเกลโดยตรงรวมกับตัวเลขที่ได้จากการประมาณอีก  1 ตัว ตามหลักการบันทึกตัวเลขที่เหมาะสม  เช่น  ผลการวัดความยาวค่าหนึ่ง อ่านได้จากเครื่องมือวัด  105.23 เซนติเมตร อ่านเพิ่ม

บทที่ 1.5 ความไม่แน่นอนในการวัด


ในการวัดปริมาณต่างๆ ด้วยเครื่องมือ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการทดลอง ย่อมไม่สามารถวัดได้อย่างแม่นยำ  โดยทั่วไปจะมีความผิดพลาด(Error) หรือความคลาดเคลื่อนอยู่เสมอ อ่านเพิ่ม

บทที่ 1.4 การทดลองในวิชาฟิสิกส์


การทดลองในวิชาฟิสิกส์ดังที่จะได้กระทำในบทเรียนต่างๆ ต่อไป แม้จะไม่ใช่ของใหม่การฝึกทำจะเป็นการฝึกฝนวิธีการทำการทดลอง ตามแนวที่เป็นที่ยอมรับในวงการฟิสิกส์ การทำการทดลองถือเป็นส่วนสำคัญในการฝึกทำและคิดหาเหตุผลอย่างวิทยาศาสตร์  อ่านเพิ่ม

บทที่ 1.3 ปริมาณกายภาพและหน่วย


ข้อมูลเชิงคุณภาพ (Qualitative Data) เป็นข้อมูลที่ไม่เป็นตัวเลข ได้จากการสังเกตตามขอบเขตของการรับรู้ เช่น รูปร่าง ลักษณะ กลิ่น สี รส เป็นต้น

ข้อมูลเชิงปริมาณ (Quantitative Data) เป็นข้อมูลที่เป็นตัวเลข ได้จากการวัดปริมาณต่างๆโดยใช้เครื่องมือวัดและวิธีการวัดที่ถูกต้อง  อ่านเพิ่ม

บทที่ 1.2 ฟิสิกส์


ฟิสิกส์ (Physics) เป็นวิทยาศาสตร์ ที่เกี่ยวข้องกับสสารและพลังงาน ศึกษาการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ และ ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสสารกับพลังงาน รวมทั้งเป็นความรู้พื้นฐานที่นำไปใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับการผลิต และเครื่องใช้ต่าง ๆ อ่านเพิ่ม

บทที่ 1.1 การอธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาติ


มนุษย์ในสมัยโบราณเชื่อว่าปรากฏการทางธรรมชาติเป็นฝีมือของเทพเจ้าหรือภูตผีปีศาจ  ซึงได้แก่ กลางวันกลางคืน  ภูเขาไฟระเบิด  ดาวตก  พายุ  รุ้งกินน้ำเป็นต้น  การพยายามหาคำตอบในสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ต้องการทราบในสิ่งต่าง ๆ ที่ยังอธิบายไม่ได้ อ่านเพิ่ม

บทที่ 1 บทนำ


ฟิสิกส์(physics)มาจากภาษากรีกที่มีความหมายว่า"ธรรมชาติ"ดังนั้นฟิสิกส์จึงควรจะหมายถึงเรื่องราวที่เกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติทั้งหลายและมีความหมาย เช่นนั้น ในสมัยก่อนซึ่งบางครั้งอาจเรียกว่า"ปรัชญาธรรมชาติ"ปัจจบันความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติได้ขยายขึ้นอย่างมากทั้งในเชิงรายละเอียดเเละสาขาของความรู้ โดยเฉพาะความรู้ความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิทยาศาสตร์ (science) อ่านเพิ่ม